ฟันแบบไหน ที่เด็กควรจัดฟัน?
ปัญหาช่องปากของเด็กที่อาจทำให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับสุขภาพเหงือกและฟันสามารถแก้ได้ด้วยการจัดฟัน โดยตัวอย่างฟันของเด็กที่ควรจัดฟันเพื่อปรับแก้ให้ดีขึ้น ได้แก่
เด็กที่ฟันน้ำนมหลุดเร็วเกินไปหรือหลุดช้าเกินไป
เด็กที่มีฟันเรียงตัวไม่เหมาะสมจนเกิดปัญหาด้านการเคี้ยวหรือกัดอาหาร
เด็กที่มีฟันที่ทำให้เกิดปัญหาด้านการออกเสียงหรือการพูด
เด็กที่มีปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันขึ้นผิดไปจากตำแหน่งที่ควรขึ้น
เด็กที่มีปัญหาฟันยื่น
ตำแหน่งซี่ฟันทำให้เด็กเผลอกัดเหงือกหรือกัดลิ้นได้ง่าย
เด็กที่มีปัญหาขากรรไกรดัง ขากรรไกรยื่น
โครงสร้างใบหน้าของเด็กไม่สมส่วน
เด็กที่มีพฤติกรรมชอบนอนกัดฟัน
เด็กจัดฟันได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
การตรวจสุขภาพฟันเด็กสามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือน หรือเมื่อฟันน้ำนมซี่แรกขึ้นพ้นจากเหงือก ส่วนการจัดฟันเด็กไม่จำเป็นต้องรอให้มีฟันแท้ขึ้นครบเสมอไป
หากมีปัญหาฟันจนต้องดัดฟัน แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงที่ใช้ฟันน้ำนมก็สามารถจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 4-6 ขวบ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์
ซึ่งจะพิจารณาช่วงอายุ ระยะเวลา และแนวทางการจัดฟันที่เหมาะสมกับเงื่อนไขด้านสุขภาพฟันของเด็กแต่ละคนเอง
เด็กจัดฟันแบบไหนได้บ้าง?
1. อุปกรณ์จัดฟันแบบถอดได้
อุปกรณ์จัดฟันแบบถอดได้แบ่งออกได้ 3 กลุ่ม ได้แก่
- อุปกรณ์จัดฟันแบบ EF Line /NOA/Myofuntional appliance ช่วยปรับเปลี่ยนองค์ประกอบในช่องปากให้ผู้ที่มีปัญหาฟันตั้งแต่อายุยังน้อย
ได้อย่างหลากหลาย เช่น ปัญหาฟันห่าง ฟันบนล่างไม่สบกัน ฟันสบลึก ฟันหน้าสบเปิด ฟันยื่น ฟันซ้อน ฟันเก คางเคี้ยว หรือคางสั้น
- อุปกรณ์ Invisalign First เป็นอุปกรณ์จัดฟันใสแบรนด์ Invisalign สำหรับเด็กโดยเฉพาะ
- อุปกรณ์ Functional appliance เป็นอุปกรณ์เสริมนอกเหนือไปจากตัวชุดจัดฟัน มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับอุปกรณ์จัดฟันเพื่อรักษาความผิดปกติต่างๆ
ในช่องปากให้เห็นผลมากขึ้น เช่น อุปกรณ์ขยายขากรรไกร (Expander) อุปกรณ์ช่วยไกด์ขากรรไกรล่าง (Bionator)
เพื่อแก้ปัญหาคางสั้น ปัญหานอนกรน ปัญหาหายใจทางปากขณะนอนหลับที่เกิดจากคางถอยไปข้างหลัง
ฟันแบบไหน ที่เด็กควรจัดฟันเด็ก? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/