เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าใครที่กำลังมองหาทีวี หรือโทรทัศน์ใหม่สักเครื่องเมื่อไปที่ร้านจำหน่ายแล้วจะมีคำแนะนำเรื่องหน้าจอที่หลากหลายมาก ชวนให้ปวดหัวได้ง่าย ๆ ด้วยคำศัพท์ที่แสนวุ่นวาย ทั้ง
oled VS 4K VS LED ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าทั้ง 3 สิ่งนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร ขอรวบรวมความน่าสนใจมาให้ศึกษา เพื่อการเลือกใช้งานได้ตอบโจทย์ที่สุด
ความต่างของ oled VS 4K VS LED ควรเลือกซื้อชนิดไหน1. ชนิด Organic light-emitting diode
ค่อนข้างน่าสนใจมาก ๆ กับ
oled tv เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีสารประกอบที่ช่วยให้พิกเซลหน้าจอมีความละเอียดอ่อนมากขึ้น มีความสว่างเพิ่มขึ้น และมีความเข้มข้นของแสงสีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ดูสมจริงมาก ๆ เพิ่มอรรถรสในการชมได้อย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่มีภาพยนตร์ให้ดูผ่านแพลตฟอร์ม อย่าง NETFLIX หรืออื่น ๆ ก็ตาม ทำให้ดูมีความสวยงาม สมจริง โดดเด่นเรื่องระบบเสียงไดนามิกที่มีความบางเฉียบ มีเสียงเบสที่ฟังชัดหนักแน่นทรงพลัง สั่นสะเทือนน้อยมาก ทำให้รับชมได้ต่อเรื่องไม่มีสะดุด
2. ชนิด 4K หรือ high-definition
หรือที่เรียกกันอีกสั้น ๆ ตามที่เคยได้ยินคือ HD ที่มีจำนวนพิกเซล 1080 ซึ่งโดยทั่วไปทีวี หรือโทรทัศน์ธรรมดาจะมีความละเอียดอย่างน้อย 3840 x 2160 พิกเซล ทำให้การแสดงภาพมีความคมชัดได้อย่างต่อเนื่อง และด้วยจำนวนพิกเซลที่มีมากก็เพิ่มขึ้นเป็น 8.3 ล้านพิกเซลโดยที่มากกว่าจำนวนพิกเซลของ HDTV ที่มีทั่วไป นอกจากความโดดเด่นเรื่องความละเอียดแล้ว แบบ 4K ก็ยังมอบช่วงสีที่กว้างมากขึ้น ทำให้ภาพมีความสมจริงได้ในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่เท่าชนิดแรก ทั้งนี้ ราคาก็จะประหยัดกว่า
3. ชนิด LED หรือ Light-Emitting Diode
เป็นอีกหน้าจอ
สมาร์ททีวีที่ได้รับความนิยมสูงมากเช่นกัน โดยที่มีการวางคริสตัลเหลวที่กระจกโพลาไรซ์สองชั้น ทำให้การเปิดรับแสงผ่านหรือปิดกั้นได้หมดเลย นอกจากหน้าจอทีวีจริง ๆ แบบ LED ก็เป็นหน้าจอมือถือได้ด้วย เนื่องจากว่ามีการใช้ไฟเป็นแบ็กไลด์ มีการควบคุมความสว่างของแสงได้ด้วยไฟแบ็กไลด์ที่ประมวลสัญญาณขึ้นหลายร้อยจุดในทีวี ทำให้ได้ภาพที่มีสีละเอียดสูง ลึกล้ำยอดเยี่ยม
จะเห็นได้เลยถึงความแตกต่างของทั้ง oled VS 4K VS LED ที่เราควรเลือกซื้อเลือกหาตามการใช้งาน ซึ่งเพื่อความใช้งานที่สร้างความบันเทิง ความเพลิดเพลิน คลายเหงาแล้ว เราจำเป็นต้องเรียนรู้ข้อควรระวังบางประการด้วย เพื่อให้การใช้งานผ่านไปได้ราบรื่นเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นห้ามจัดวางทีวีไว้ที่ที่มีความชื้นหรือฝุ่นหนา ไม่ควรติดตั้งในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป และสุดท้ายหากพบว่าสินค้าชำรุด หรืออยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์แล้วต้องหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจเช็คเพื่อซ่อมแซม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ :
https://www.homepro.co.th/c/TVA0703