เมื่อการเจริญเติบโตมาสุขภาพแข็งแรงและสุขทั้งกายและใจคือเป้าหมายสำคัญ
(https://sv1.picz.in.th/images/2023/03/02/ek6ZzZ.jpg)
พ่อแม่หรือหลายๆท่านที่เริ่มวางแผนมีลูกมีครอบครัว ก็จะต้องเริ่มศึกษาถึงวิธีการเลี้ยงลูก การตั้งครรภ์ การดูแลคุณแม่หลังคลอด และการเลือกโรงเรียนที่ดีและเหมาะสมที่สุดให้กับลูก เพราะโรงเรียนนั้นคือ ด่านแรกของการเรียนรู้ของลูกที่ไม่มีพ่อแม่คอยตามไปสังเกตการณ์ และลูกจะมีอิสระในการเล่นและเริ่มมีปฎิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นๆที่ไม่ใช่พ่อแม่ ถือว่าเป็นก้าวแห่งความสำคัญ พ่อแม่หลายๆท่านจึงต้องเลือกโรงเรียน kindergarten school Bangkok international nursery Bangkok (https://bcisb.ac.th/kindergarten-k3/) ไว้เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเมื่อไรก็ตามที่ลูกห่างอกพ่อแม่ ก็ยังมีความปลอดภัยและลูกสามารถเต็มที่ทั้งด้านวิชาการและความคิดสร้างสรรค์
ในยุคสมัยใหม่ ที่การเรียนหนักๆและเน้นวิชาการมากไป อาจจะไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่หลายคนต้องการ เพราะวิวัฒนาการที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยีต่างๆที่แตกต่างจากยุคของพ่อแม่มากนั้น ทำให้พ่อแม่เปิดใจที่จะให้ลูกได้ลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้เขาได้ค้นหาตัวเอง และสิ่งสำคัญที่จะต้องมาควบคู่กับความรู้นั้นก็คือ การมีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ รวมไปถึงสุขภาพจิตที่ดี ทนท่อแรงกดดันจากความคาดหวังของสังคม นอกจากนี้ยังต้องเรียนรู้วิธีหากเกิดการบูลลี่เกิดขึ้น สิ่งนี้ถือเป็นปัญหาระดับโลกที่แม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วอย่าง ยุโรป อเมริกา เกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น เด็กๆในประเทศเหล่านั้นยังต้องทุกข์ทนกับปัญหานี้ และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย การเลี้ยงดูปลูกฝังของพ่อแม่ เป็นปัจจัยหนึ่งที่บอกได้ว่า เด็กคนหนึ่งจะมีสุขภาพจิตที่ดี เติบโตเป็นคนที่รับมือกับสถานการณ์ในชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปได้ มีจิตใจที่เข้มแข็งและมีภูมิต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีร้ายในชีวิต พ่อแม่ควรดูแลสุขภาพจิตของตัวเองให้ดีก่อน เพราะถ้าพ่อแม่มีความเครียด ปัญหาสุขภาพจิต เช่น วิตกกังวล ซึมเศร้า ก็จะส่งผลต่อการเลี้ยงดูลูกได้ และพ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะละเลยตรงนี้ให้ความรัก มีเวลาให้ลูก พูดคุยกับลูก เล่น เล่านิทาน ทำกิจกรรมกับลูกบ่อยๆ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีฟังลูกมากๆ เวลาลูกอยากเล่าอะไรให้ฟัง ถ้าพ่อแม่ฟังลูก ลูกจะฟังพ่อแม่มากขึ้น และอยากเล่าอยากระบายสิ่งต่างๆ ให้พ่อแม่ฟัง เด็กอายุน้อยกว่า 2 ขวบไม่ควรดูหน้าจอทุกชนิด (มือถือ,แท็บเล็ต,ทีวี,คอมพิวเตอร์ฯลฯ) และอย่าปล่อยให้ลูกติดหน้าจอเกินไป ให้ทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง เด็กและวัยรุ่นยุคนี้ที่มีปัญหาสุขภาพจิตส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้หน้าจอมากเกินไป สำคัญคือพ่อแม่ต้องไม่ติดจอด้วย เป็นตัวอย่างที่ดี และควรดูไปพร้อมกับเด็ก เพื่อแนะนำและมีความเข้าใจกันมากขึ้น สอนให้ลูกมีระเบียบวินัย ไม่ตามใจเกินไป ให้ลูกรู้จักควบคุมตัวเอง รู้จักอดทนรอคอย สอนให้รู้จักช่วยเหลือตัวเองตามวัย อย่าทำอะไรให้ทุกอย่าง จนลูกติดสบายเกินไป ปฏิบัติกับลูกบนพื้นฐานของความรักและเข้าใจ มีเมตตาและเอาใจลูกมาใส่ใจเรา ลูกจะรู้สึกมีความมั่นคงปลอดภัย ทางจิตใจ เข้าใจพัฒนาการเด็กพื้นฐาน รู้ว่าเด็กวัยนี้ควรทำอะไรได้หรือยังทำไม่ได้ ไม่เร่งรัดเด็กเกินไปจนเป็นความกดดันและทำให้เกิดความเครียดโดยที่ไม่ตั้งใจ