ในปัจจุบันนี้หลายคนมองว่าการจัดฟันเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ได้ดูแปลกแต่อย่างใด และอย่างที่ทราบกันรูปแบบการจัดฟันที่กำลังมาแรงในตอนนี้ก็คือ การจัดฟันแบบใส Invisalign เป็นรูปแบบการจัดฟันที่เหล่าซุปตาร์คนดังและดารานักร้องนิยมทำกัน แล้วการจัดฟันด้วยวิธีการนี้ดีอย่างไร ทำไมใคร ๆ ต่างก็เลือกวิธีนี้ มาพบคำตอบกันเลย
1.สวยงามแบบใส ๆ ไม่ต้องกังวลใจเรื่องเหล็กดัดฟัน
การจัดฟันด้วยวิธีนี้ จะมีการใช้วัสดุที่มีความใสเป็นเครื่องมือ นั่นทำให้การจัดฟัน Invisalign ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่มั่นใจของผู้คนได้ เพราะเมื่อยิ้ม บุคคลอื่นก็จะไม่เห็นอุปกรณ์จัดฟัน คนที่เข้ารับการจัดฟันก็จะไม่รู้สึกกังวลใจ มีความมั่นใจในการยิ้มและการพูดคุยมากยิ่งขึ้น นี่ล่ะที่ทำให้ซุปตาร์คนดังที่ต้องออกหน้ากล้องบ่อย ๆ รู้สึกว่าตอบโจทย์มาก
2.สะดวกใช้และง่ายต่อการดูแลรักษา
เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับจัดฟันใสนั้น ไม่ใช่อุปกรณ์ติดแน่นถาวรสามารถถอดออกได้ง่าย ทำให้เกิดความสะดวกในการใช้งาน ช่วงที่รับประทานอาหารหากรู้สึกไม่สะดวกก็สามารถถอดออกได้ ซึ่งการถอดเข้าออกได้นี่เองที่ช่วยทำให้เรื่องการดูแลความสะอาดก็ทำได้ง่ายด้วย
3.ขั้นตอนการจัดฟัน Invisalign ก็ไม่เจ็บอย่างที่คิด
หลายคนอาจจะกังวลว่าการจัดฟันจะเกิดความเจ็บปวด แต่ถ้าคุณเลือกจัดฟันแบบใส Invisalign ก็ให้วางใจเรื่องนี้ได้เลย เพราะการจัดฟันด้วยวิธีนี้เจ็บน้อยมาก มีการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยในการกำหนดทิศทางของการจัดฟัน ตรงนี้มีส่วนมากในการลดการระคายเคืองในส่วนต่าง ๆ ภายในช่องปาก ทั้งเรื่องของบาดแผลในปาก เรื่องของการระคายเคืองที่เหงือก บอกเลยว่าไม่เจ็บอย่างที่กลัวแน่นอน
4.ลดเวลาการมาพบทันตแพทย์
เวลาเป็นสิ่งสำคัญในยุคสมัยนี้ หากต้องสละเวลามาพบทันตแพทย์ที่คลินิกบ่อย ๆ ก็คงจะไม่สนุกกับชีวิตแน่ ซึ่งการจัดฟันแบบใสก็สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ให้คุณได้ ในช่วงแรกอาจจะต้องมาพบคุณหมอก่อน แต่พอเข้ารับการทำครั้งแรกและคุณหมอประเมินแล้ว ก็สามารถรับชุดอุปกรณ์กลับไปทำเองที่บ้านได้ ไม่ต้องมาพบแพทย์บ่อย ๆ โดยแพทย์จะนัดมาตรวจตามระยะ ซึ่งทำให้เราประหยัดเวลาขึ้นอีกเยอะ
5.การดูแลสุขภาพช่องปากทำได้ง่าย
เนื่องจากจัดฟันแบบใสอุปกรณ์สามารถเคลื่อนย้ายถอดเข้าออกได้สะดวก ทำให้เราสามารถที่จะดูแลทำความสะอาดช่องปากได้อย่างทั่วถึง เรียกว่าดูแลปากและฟันได้อย่างปกติเลย
ทั้งหมดนี้คือจุดเด่นของดีของการจัดฟันแบบใส แน่นอนว่าการจัดฟันแบบนี้ราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าพิจารณาจากข้อดีที่มากมาย สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ดีแล้วล่ะก็คุณก็จะพบว่า จริง ๆ ราคาก็คุ้มค่าอยู่นะ ตรงนี้ก็อยู่ที่คุณจะพิจารณาแล้วล่ะ
เมื่อเทียบกันแล้ว ควรจะเลือกแบบไหนดี?
จากภาพรวมที่กล่าวมาข้างต้น คุณจะเห็นว่าการจัดฟันทั้งสองรูปแบบนั้น ต่างก็สามารถตอบโจทย์การรักษา สามารถจัดฟันให้เกิดการเรียงตัวสวยงามตามต้องการได้ทั้งคู่ แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการที่คุณต้องรู้ไว้ก่อนตัดสินใจเลือกด้วย นั่นก็คือ
· ราคา – หากคุณมีงบประมาณไม่มากนักก็ดูเหมือนว่า การจัดฟันแบบโลหะนั้นจะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ดีกว่า เพราะจัดฟันแบบใสราคาสูงทีเดียว เพราะจะต้องใช้เทคโนโลยีในการสแกน 3D การส่งผลเข้าแลป และค่าอุปกรณ์ จึงทำให้ราคาสูงกว่าแบบโลหะหลายเท่าทีเดียว
· ความสวยงาม – แน่นอนว่าเรื่องนี้การจัดฟันใสชนะขาด เพราะไม่ต้องติดอุปกรณ์ใด ๆ หากคุณเลือกจัดฟันด้วยวิธีนี้ บางทีคนที่อยู่รอบข้างคุณยังไม่รู้เลยว่าคุณกำลังจัดฟันอยู่ ซึ่งผิดกับแบบโลหะที่จะต้องเผยลวดและยางจัดฟัน ตรงนี้สำหรับบางคนแล้วก็กระทบกับความมั่นใจในการใช้ชีวิตและหน้าที่การงานอยู่ไม่น้อย
· ระยะเวลาและความสะดวก – ตรงนี้ทั้งสองแบบมีข้อเด่นข้อด้อยแตกต่างกันไป จัดแบบโลหะจะเร็วและสะดวกในแง่ของทันตแพทย์ คือหลังตรวจเช็คทุกอย่างเสร็จก็สามารถลงมือจัดฟันให้คนไข้ได้เลย แต่ระยะเวลาในการจัดฟันที่จะเห็นผลลัพธ์นั้นอาจจะนาน ส่วนจัดฟันใสจะใช้เวลาในการตรวจนานกว่า ซึ่งเวลาจะหมดไปกับการรอความพร้อมต่าง ๆ ร่วมเดือน แต่การจัดฟันจริง ๆ แล้ว ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีก็จะเริ่มเห็นผลลัพธ์แล้ว
อย่างไรก็ตามยังมีอีกปัจจัยที่คุณต้องทราบด้วย ก็คือ เรื่องดุลยพินิจของทันตแพทย์ บางคนอาจจะต้องการทำแบบใส แต่แพทย์ตรวจแล้วเห็นว่าไม่เหมาะหรือติดข้อจำกัดบางอย่าง หรือไม่ก็อาจจะติดปัญหาในส่วนของคลินิกเองที่อุปกรณ์บางอย่างอาจไม่พร้อม จึงต้องเลือกทำแบบโลหะแทน ซึ่งตรงนี้ก็อยู่ที่การพิจารณาของแพทย์ด้วยนั่นเอง
ตอนนี้คุณคงได้ทราบกันแล้วว่าการจัดฟันแบบใสกับแบบโลหะมีความแตกต่างกันอย่างไร มีข้อเด่นข้อด้อย และข้อจำกัดอะไรบ้าง จะเลือกแบบไหนก็อยู่ที่คุณพิจารณาตามความเหมาะสม แต่จะให้ดีลองปรึกษาขอคำแนะนำจากทันตแพทย์จะชัวร์ที่สุด และดีต่อตัวคุณที่สุดเลยนั่นเอง
จัดฟันแบบใสดีอย่างไร ทำไมใคร ๆ ก็เลือกวิธีนี้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/
%20TPCC2.jpg)
.png){kind=logo}
